ทำความเข้าใจเกี่ยวกับมอเตอร์แต่ละประเภท

มอเตอร์ เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่เราสามารถเห็นได้ทั่วไปตาม ร้านขายมอเตอร์ ส่วนใหญ่ก็อยุ่ใกล้ๆ ตัวเราทั้งนั้น อย่างเช่นของเล่นเด็กประเภทรถบังคับ หรือไม่ก็เป็นพัดลม เหล่านี้เป็นผลของการทำงานจากมอเตอร์ทั้งสิ้น มอเตอร์ที่เราเห็นกันรอบตัวเรานั้น ถือว่าเป็นมอเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ไม่มากนัก ยังมีขนาดใหญ่กว่านั้นมาก ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ ที่ให้กำลังสูงๆ ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นกันเท่าไหร่นัก นอกจากเราจะทำงานในโรงงานเท่านั้น

และ ร้านขายมอเตอร์ ที่เราเห็นกันทั่วไปนั้น ก็ไม่ได้ขายมอเตอร์ที่มีขนาดใหญ่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นมอเตอร์ที่เราใช่ในชีวิตประจำวันเท่านั้น สำหรับคนที่ต้องการอยากจะได้มอเตอร์เอามาไว้ใช หรือต้องการอยากจะเอาไปใช้ในธุรกิจของตัวเอง ก็ต้องเข้าใจมอเตอร์แต่ละประเภทก่อน ซึ่งมีดังนี้

-มอเตอร์ดีซี เป็นมอเตอร์ที่เราเห็นได้ทั่วไป เช่นในรถของเล่นของเด็ก มีทั้งแบบที่มีแปลงถ่าน และไม่มีแปลงถ่าน เป็นมอเตอร์ที่ไม่มีความซับซ้อนมาก และไม่ต้องการบำรุงรักษาที่มาก และเสียงรบกวนน้อย

-มอเตอร์แบบสั่น เป็นมอเตอร์ที่นิยมเอามาใช้ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน อย่างเช่นระบบสั่นสะเทือนของโทรศัพท์มือถือ หรือจอยสติ๊กของเกมส์

-สเตปปิ้งมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ที่มีวคามแม่นยำสูงมาก นิยมเอามาใช้กับงานที่ต้องการความแม่นยำที่สูง อย่างเช่นการพิมพ์งาน เป็นมอเตอร์ที่ต้องการกระแสไฟฟ้าสูง แต่ควบคุมง่าย และสามารถใช้งานได้กับโหลดสูงๆได้

-เซอร์โวมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ที่ใช้สำหรับควบคุมระยะไกล และไม่ต้องการความแม่นยำมาก อย่างเช่นที่เราเห็นกันบ่อยก็คือ รถบังคับวิทยุ

-เอซีมอเตอร์ เป็นมอเตอร์ที่เราเห็นกันเยอะมากที่สุดตาม ร้านขายมอเตอร์ เพราะสามารถเอามาใช้กับไฟบ้านได้ อย่างเช่นพัดลม นอกจากนี้ยังมีมอเตอร์กระแสสลับที่ใหญ่กว่านั้นมาก แต่จะเป็นแบบสามเฟส หรือเอามาใช้กับโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น

และก่อนที่เราจะเลือกซื้อมอเตอร์แต่ละประเภทนั้น สิ่งที่เราต้องพิจารณานอกจากประเภทของมอเตอร์แล้วก็คือ แรงดันไฟฟ้า เพราะแรงดันไฟฟ้าในประเทศไทยนั้น จะมีอยู่สองแบบคือ แบบ 220 หรือไฟบ้าน กับ 380 3 เฟสที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งก่อนที่เราจะเลือก ต้องดูว่าเราเอามาใช้กับงานที่หนัก หรือใช้กับอะไร นอกจากนั้นแรงม้า หรือว่ากำลังของมอเตอร์ ก็เป็นสิ่งที่เราต้อพิจารณาเช่นกัน ว่าจะเลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับงานที่เราเอามาใช้

และต้องเลือกให้เหมาะสม โดยสามารถดูได้ที่เนมเพลตข้างมอเตอร์ได้ ข้อควรระวังคือ ไม่ควรจะเอามอเตอร์ที่มีกำลังขับเคลื่อนน้อย มาใช้กับโหลดที่มีน้ำหนักมาก เพราะอาจจะทำให้เกิดการเสียหายได้

และสุดท้ายคือรอบของมอเตอร์ เราสามารถเลือกความเร็วรอบของมอเตอร์ได้ว่าต้องการเท่าไหร่ อย่างเช่น 1400 รอบ/นาที 2900-3000 เป็นต้น และแรงบิดของมอเตอร์เอง ก็ต้องเหมาะสมกับงานที่ต้องการใช้มอเตอร์ด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นหลักการในการเลือกซื้อมอเตอร์จาก ร้านขายมอเตอร์ คร่าวๆ ที่เราต้องเอามาพิจารณาก่อน หากว่าไม่สามารถที่จะเลือกซื้อเอง หรือหาข้อมูลได้ วิธีการที่ดีที่สุดก็คือ ต้องสอบถามจากเซลล์ หรือไม่ก็ช่างที่มีความเชี่ยวชาญก่อน เราถึงจะได้มอเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานที่สุด